ในบัญชี PAMM ลูกค้า (นักลงทุน) จะจัดสรรเงินทุนให้กับลูกค้าอีกราย (PAMM Master) ซึ่งทำการซื้อขายกับโบรกเกอร์รายเดียวกัน PAMM Master จะดำเนินการซื้อขายในนามของนักลงทุน และทุกครั้งที่มาสเตอร์ทำกำไร นักลงทุนจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมผลการดำเนินงานตามส่วนแบ่งกำไรของตน กลยุทธ์การซื้อขายของมาสเตอร์จะถูกนำไปใช้กับบัญชีทั้งหมด และจะมีการจัดสรรกำไร (หรือขาดทุน) ให้กับบัญชีตามสัดส่วน
บัญชี PAMM ช่วยให้ผู้จัดการกองทุน (PAMM Master) สามารถบริหารหลายบัญชีเทรดจากบัญชีเดียว โดยไม่จำเป็นต้องสร้างกองทุนลงทุนแยกต่างหาก ผลการดำเนินงานของผู้จัดการ ไม่ว่าจะเป็นกำไรหรือขาดทุน จะถูกแบ่งสรรให้กับบัญชีของนักลงทุนทั้งหมดตามสัดส่วนเงินลงทุนของแต่ละคนต่อทุนรวมทั้งหมด
วิธีการทำงาน:
- PAMM Master ใช้กลยุทธ์การซื้อขายของตนเพื่อกำหนดว่าควรทำการซื้อขายใด เพื่อจัดสรรสินทรัพย์และเพื่อจัดการความเสี่ยง
- นักลงทุนจะจัดสรรเงินทุนให้กับกลยุทธ์ของมาสเตอร์และร่วมแบ่งกำไรและขาดทุนจากการซื้อขายที่ทำในนามของพวกเขา
- เมื่อมาสเตอร์ทำกำไร นักลงทุนจะจ่ายค่าธรรมเนียมตามผลการดำเนินงานตามส่วนแบ่งกำไรของตน PAMM Master จะได้รับรายได้จากค่าธรรมเนียมเหล่านี้ ซึ่งมักจะเป็นค่าธรรมเนียมตามผลการดำเนินงานและ/หรือค่าธรรมเนียมการบริหารจัดการ
- นักลงทุนจะไม่เห็นความเคลื่อนไหวของการซื้อขายแบบเรียลไทม์ แต่จะได้รับกำไรหรือขาดทุนตามกลยุทธ์ที่มาสเตอร์เป็นผู้จัดการและดำเนินการ
- นักลงทุนสามารถถอนเงินของตนได้ทุกเมื่อ ซึ่งให้ความยืดหยุ่นและการควบคุมแก่นักลงทุน
โดยสรุป บัญชี PAMM ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถจัดการเงินทุนของนักลงทุนหลายรายได้พร้อมกัน ในขณะที่นักลงทุนสามารถเข้าร่วมในกลยุทธ์การซื้อขายได้